ขณะที่คุณอ่านข้อความอยู่นี้ คุณจะคิดเพียงว่า ประกันชีวิตทำแล้วได้อะไร
ในวันนี้คุณอาจปฏิเสธกรมธรรม์นี้ แต่ในอนาคตเมื่อเกิดอะไรขึ้นกับตัวคุณ คนที่อยู่ข้างหลังคุณ จะทำอย่างไร
เปลี่ยนความคิดในการออมเงินเสียใหม่ โดยออมเงินในรูปแบบกรมธรรม์ ดีมั๊ย
ผู้เขียนได้ประสบกับตัวเองมาแล้วว่า การประกันชีวิตยังเป็นการออมเงินชนิดหนึ่งคล้ายกับ BANK ต่างกันตรงไหน...มาดูกัน
ประกันชีวิต ครบกำหนดคืนเงินตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ Bank ครบกำหนดได้เงินต้น + ดอกเบี้ย
ไม่สามารถถอนได้ เป็นการบังคับให้เราออมเงิน เบิกถอนได้ตามใจชอบ
เสียชีวิตได้เงิน ตามระบุไว้ตามกรมธรรม์ เสียชีวิตได้เงินที่เหลือ+ดอกเบี้ย
*** คุณควรทำประกันชีวิต ควบคู่ กับการออมเงินในธนาคาร เพราะประกันชีวิต เป็นการออมเงินในระยะยาว เพื่อที่ถึงวันนั้น คุณอาจมีเงินก้อน เพื่อไว้ลงทุนในอนาคต ส่วนการออมเงินไว้ในธนาคารเพื่อเป็นการเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
ขณะที่ผู้เขียนได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการประกันชีวิตให้ท่านได้ทราบนี้ เพราะผู้เขียนเห็นประโยชน์จากการทำประกันชีวิต เริ่มแรกผู้เขียนยังคิดว่าการทำประกันชีวิต จะทำไปทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร แต่ที่ทำกรมธรรม์ฉบับแรก เพื่ออยากช่วยเพื่อที่เป็นตัวแทน พอมาถึงจุดนึง เราถึงรู้ว่าเราทำประกันชีวิตเพื่ออะไร การทำประกันชีวิต ไม่ใช่เพื่อที่จะแช่งตนเอง เป็นเป็นการออมเงินอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากธนาคาร
ในขณะที่ผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวให้ท่านอ่านนี้ ผู้เขียนมีกรมธรรม์ไว้ติดบ้าน สมาชิก 5 คน
มีกรมธรรม์อยู่ 8 ฉบับ ซึ่งมี 2 ฉบับ ที่ครบกำหนดแล้ว แต่ยังคุ้มครองไปอีก 8 ปี
ถึงกำหนด ลูกสาวคนโต อายุครบ 15 พอดี ถือว่าเป็นการออมเงินไว้ให้ลูกๆ ใช้ในอนาคต